V-Shape แก้ วิกฤติหน้าบาน

V-Shape แก้ วิกฤติหน้าบาน

V-Shape แก้ วิกฤติหน้าบาน


หนึ่งในปัญหาใหญ่ของสาวๆในยุคนี้ คือ เรื่องของรูปหน้าที่บานซึ่งไม่ว่าจะพึ่งเครื่องสำอางค์ยี่ห้อดัง ราคาแพงมากเพียงใด ห็ไม่สามารถลดความบานขอใบหน้าได้ตามต้องการเสียทีจนกลายเป็นความกังวลของหลายๆคน
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าบาน
1.โครงสร้างกระดูก
2.ไขมันบนใบหน้า
3.กล้ามเนื้อกรามมีขนาดใหญ่
4.ต่อมน้ำลายพาโรติด หรือต่อมใต้หูผิดปกติ 

ปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างกระดูก
สามารถแก้ไขได้ 2 วิธี คือ
- ผ่าตัด ข้อดีของการผ่าตัด คือ เห็นผลเร็ว แต่ข้อเสีย คือ ต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลานานเสี่ยงต่อเลือดออกมาก ติดเชื้อหรือแม้แต่อาจเกิดจากการผ่าตัดกระดูกออกไม่เท่ากัน
-ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม วิธีการก็คือ ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้คงความเล็กอยู่เรื่อยๆต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปีขึ้นไป เมื่อกล้ามเนื้อกรามเล็กลง กระดูกก็จะเล็กลงตามขนาดของกล้ามเนื้อไปด้วย เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด แต่ข้อเสียก็คือต้องฉีดได้รับการฉีดซ้ำ

ปัญหาที่เกิดจากไขมันบนใบหน้า
รักษาด้วยการฉีดยาสลายไขมันเพื่อทำให้ปริมาณไขมันลดลง หรือฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์ (BotoxLift) เพื่อคลายกล้ามเนื้อพลาทิสมา(Platysma Muscle) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดที่ทำให้หน้าหย่อนคล้อย จนแก้มห้อยลง หากคลายการทำงานของกล้าวเนื้อมัดนี้ก็จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ดึงให้หน้ายกขึ้นทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้รวมไปถึงการร้อยไหมละลายช่วย และการใช้ฟิลเลอร์บางประเภท

ปัญหาที่เกิดจากกล้ามเนื้อกราม
รักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกราม เหมาะ สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อใหญ่ ไขมันน้อย ในคนไข้บางคนถ้าฉีดไปแล้วอาจทำให้โหนกแก้มดูเด่นขึ้น ใบหน้าดูโทรมมากขึ้น เพราะฉะนั้น ต้องดูลักษณะโครงสร้างใบหน้าของคนไข้แต่ละคนก่อนการรักษา

ปัญหาที่เกิดจากต่อมน้ำลายพาโรติด
ต่อมน้ำลายพาโรติดหรือต่อมน้ำลายใต้หู(Parotid glands)ปกติต่อมนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่จนเห็นได้ชัด แต่อาจพบบ้างในบางรายที่ต่อมทำงานผิดปกติ ส่วนใหญ่เกิดกับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอร์หรือเป็นโรคตับ ซึ่งรักษาได้ 2 วิธีคือ การผ่าตัดออกและการฉีดโบท็อกซ์ลงไปที่ต่อมน้ำลาย