ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเป็นสัญญาณแห่งวัยที่ไม่มีใครอยากเผชิญ โดยเฉพาะร่องน้ำหมาก ซึ่งเป็นเส้นร่องลึกบริเวณมุมปากที่ส่งผลทำให้ใบหน้าดูเศร้า อ่อนล้า และดูมีอายุเกินจริง ซึ่งปัญหานี้เกิดได้เฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย บทความนี้จะพาไปดูว่าควรแก้ปัญหาร่องน้ำหมาก แก้ยังไง เพื่อฟื้นฟูใบหน้าให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และสดใสอีกครั้ง

ทำความรู้จักร่องน้ำหมากคืออะไร

ร่องน้ำหมาก (Marionette Lines) คือเส้นหรือร่องลึกที่ลากในแนวดิ่งจากบริเวณมุมปากทั้งสองข้างลงมาสู่ขอบคาง มีลักษณะคล้ายเส้นเชิดของหุ่นกระบอก ริ้วรอยชนิดนี้จัดเป็นริ้วรอยถาวรที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในขณะที่ใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ การมีร่องน้ำหมากเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิวที่ลึกกว่าริ้วรอยทั่วไป ทำให้ใบหน้าดูหย่อนคล้อยและขาดความกระชับ

ร่องน้ำหมาก vs ร่องแก้ม ต่างกันอย่างไร?

หลายคนมักสับสนระหว่างร่องน้ำหมาก และร่องแก้มต่างกันอย่างไร ปัญหาริ้วรอยทั้งสองอย่างนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จุดสังเกตที่ง่ายที่สุดคือตำแหน่งที่เกิด โดยร่องแก้มจะเป็นเส้นที่ลากจากบริเวณปีกจมูกลงมายังมุมปาก ในขณะที่ร่องน้ำหมากจะเริ่มต้นจากมุมปากลากตรงลงมาที่คาง แม้ทั้งสองปัญหาสามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้ แต่ปัญหาร่องน้ำหมาก แก้ยังไงจำเป็นต้องใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

ร่องน้ำหมากส่งผลต่อใบหน้าอย่างไรบ้าง

การมีร่องน้ำหมากไม่ใช่แค่เรื่องของริ้วรอย แต่ยังส่งผลกระทบต่อโหงวเฮ้งและภาพลักษณ์ของใบหน้าในหลายมิติ โดยทำให้มุมปากดูตกคว่ำลง ใบหน้าจึงดูเหมือนคนกำลังเศร้าหรือบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ใบหน้าไม่สดใสและดูไม่เป็นมิตร นอกจากนี้ร่องน้ำหมากยังเป็นตัวเน้นย้ำให้เห็นถึงความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณแก้มส่วนล่าง ทำให้กรอบหน้าไม่คมชัด และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแก่กว่าวัย

สาเหตุร่องน้ำหมากเกิดจากอะไรได้บ้าง

การเกิดร่องน้ำหมากเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในอย่างการเสื่อมสภาพตามวัย หรือปัจจัยภายนอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต

อายุที่มากขึ้น

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดร่องน้ำหมาก มาจากปัจจัยหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คืออายุที่เพิ่มขึ้น ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหลายอย่างพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น การฝ่อตัวลงของไขมันบนใบหน้า และที่สำคัญคือการยุบตัวของกระดูกบริเวณขากรรไกร เมื่อโครงสร้างค้ำยันเหล่านี้อ่อนแอลง ผิวหนังและไขมันจึงเกิดการหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วง และมากองรวมกันจนเกิดเป็นร่องน้ำหมากที่ชัดเจนขึ้น

การทำงานของกล้ามเนื้อ

ใบหน้าของเรามีกล้ามเนื้อที่ใช้ในการแสดงอารมณ์อยู่หลายมัด หนึ่งในนั้นคือกล้ามเนื้อ Depressor Anguli Oris (DAO) ซึ่งทำหน้าที่ดึงมุมปากลง การใช้งานกล้ามเนื้อมัดนี้ซ้ำ ๆ ประกอบกับผิวที่เริ่มขาดความกระชับ จะทำให้เกิดแรงดึงรั้งจนร่องน้ำหมากลึกและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป การทำงานที่มากเกินไปของกล้ามเนื้อมัดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้มุมปากดูตกและเกิดร่องน้ำหมาก

พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

พฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันสามารถเร่งให้เกิดร่องน้ำหมากได้เร็วขึ้น เช่น การเผชิญแสงแดดโดยไม่มีการป้องกัน รังสียูวีจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว รวมถึงการสูบบุหรี่ที่จะทำให้หลอดเลือดหดตัวและเกิดสารอนุมูลอิสระทำร้ายผิว นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ กันเป็นประจำ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลงและนำไปสู่การเกิดร่องน้ำหมากก่อนวัยอีกด้วย

แชร์เคล็ดลับ วิธีแก้ปัญหาร่องน้ำหมาก

แม้ว่าร่องน้ำหมากจะเป็นปัญหาที่น่ากังวล แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์มากมายที่สามารถเข้ามาช่วยจัดการได้ สำหรับคำถามที่ว่าร่องน้ำหมาก แก้ยังไงให้ได้ผลดีที่สุดนั้น การเลือกวิธีการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความลึกของร่องและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งมีหัตถการที่เป็นที่นิยมและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจด้วยกันหลายแบบ ดังนี้

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

การฉีดฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขร่องน้ำหมาก เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด โดยแพทย์จะฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณร่องลึก เพื่อทดแทนปริมาตรที่หายไป ช่วยพยุงผิวให้ยกตัวขึ้น ทำให้ร่องดูตื้นขึ้นทันทีหลังทำ ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณดังกล่าว การแก้ด้วยฟิลเลอร์จึงเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วและไม่ต้องพักฟื้น

การร้อยไหม

การร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวบริเวณแก้มส่วนล่างและมุมปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคนี้ใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยงขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อเกี่ยวและดึงรั้งผิวที่หย่อนคล้อยขึ้น การร้อยไหมไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่องน้ำหมากดูตื้นขึ้นในทันที แต่เส้นไหมยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่รอบ ๆ แนวไหม ทำให้ผิวเฟิร์มกระชับและผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมากร่วมกับความหย่อนคล้อยของใบหน้า

หัตถการยกกระชับ Oligio

Program Oligio ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ส่งความร้อนลงลึกถึงชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงคอลลาเจนใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อโครงสร้างผิวแข็งแรงและหนาแน่นขึ้น ผิวบริเวณแก้มและรอบมุมปากจึงถูกยกกระชับ ส่งผลโดยตรงให้ปัญหาร่องน้ำหมากที่เกิดจากความหย่อนคล้อยได้ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด

Program EndoliftX

Program PEndoliftX คือเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ผ่านเส้นใยไฟเบอร์ออพติกขนาดเล็กเพียง 0.2-0.4 มม. สอดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย พลังงานเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึก พร้อมสลายไขมันสะสมส่วนเกินที่ดึงรั้งผิว จึงช่วยยกกระชับผิวจากภายใน แก้ปัญหาร่องน้ำหมากได้อย่างตรงจุด ทำให้ผิวบริเวณแก้มและมุมปากเรียบเนียนและตึงกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)

แม้โบท็อกซ์จะไม่ได้ช่วยเติมเต็มร่องลึกโดยตรง แต่สามารถนำมาใช้เป็นหัตถการเสริมในการรักษาร่องน้ำหมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณเล็กน้อยเข้าไปที่กล้ามเนื้อ DAO ที่ดึงมุมปากลง เพื่อคลายการทำงานของกล้ามเนื้อมัดดังกล่าว เมื่อแรงดึงลดลง มุมปากจะยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นและช่วยชะลอไม่ให้ร่องน้ำหมากลึกกว่าเดิม มักใช้ควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุป

ร่องน้ำหมาก คือปัญหาริ้วรอยร่องลึก ที่ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย และทำให้ใบหน้ามีลักษณะเศร้าหมอง ซึ่งเกิดได้จากทั้งอายุที่มากขึ้น การทำงานของกล้ามเนื้อ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพหลากหลายรูปแบบ ที่ช่วยแก้ปัญหาร่องน้ำหมาก แต่ก่อนที่จะเลือกทำหัตถการใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาร่องน้ำหมากของเราที่สุด เพื่อช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมากต้องใช้กี่ CC และอยู่ได้นานแค่ไหน?

การแก้ไขร่องน้ำหมากมักใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับความลึกและการประเมินของแพทย์ ส่วนระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ แต่โดยเฉลี่ยจะคงอยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

ท่าบริหารใบหน้าช่วยลดร่องน้ำหมากได้จริงหรือไม่?

การบริหารใบหน้าอาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้เล็กน้อย แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาร่องน้ำหมากที่เกิดขึ้นจากความเสื่อมของโครงสร้างผิวหรือการสูญเสียปริมาตรได้ ในทางกลับกัน การขยับใบหน้าในท่าทางที่ผิดหรือมากเกินไปอาจเป็นการเร่งให้ริ้วรอยลึกขึ้นได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่วิธีการหลักในการรักษาร่องน้ำหมากที่เห็นผลชัดเจน

การรักษาร่องน้ำหมากเจ็บไหม และมีผลข้างเคียงที่น่ากังวลหรือเปล่า?

หัตถการส่วนใหญ่ในการรักษาร่องน้ำหมาก เช่น การฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนทำ ทำให้รู้สึกเจ็บแบบที่สามารถทนได้ ส่วนผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอาการชั่วคราว เช่น รอยแดง รอยช้ำ หรืออาการบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำ ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 3-7 วัน ความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่รุนแรงนั้นมีน้อยมากหากทำโดยแพทย์ในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน